Skip to main content
Thai Climate Justice Working Group logo

Thai Climate Justice Working Group

  • หน้าแรก
  • ปัญหา
  • ทางออก
  • ประเด็น
  • บอกต่อ
  • คลังข้อมูล
  • กิจกรรม
  • เกี่ยวกับเรา

กิจกรรม

Press Briefing: สังคมไทยควรเรียนรู้อะไรจากกรณีแม่เมาะ?

Submitted by webmaster on Tue, 04/07/2015 - 22:20

What Thai Society Should Learn From Mae Moh Case?

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน 2558 เวลา 9.30 – 12.30 น.

ร่วมจัดโดย: คณะทำงานโลกเย็นที่เป็นธรรม (Thai Climate Justice), กลุ่มจับตาพลังงาน (Energy Watch), มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW), และ ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม (ThaiSEJ)

ที่มา:

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุด ได้อ่านคำพิพากษาในสองคดีปกครองเกี่ยวกับเหมืองและโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม้ศาลปกครองชั้นต้นจะมีคำพิพากษาแล้วเมื่อปี 2552 แต่ กฟผ. ได้ยื่นอุทธรณ์ ทำให้ทั้งสองคดียืดเยื้อยาวนานมากว่า 11 ปี คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดต่อคดีดังกล่าว จึงถือเป็นความยุติธรรมที่ชาวบ้านแม่เมาะรอคอยมาอย่างยาวนาน และในระหว่างการรอคอยอย่างยาวนานนี้ มีชาวบ้านผู้ฟ้องคดีทั้งสองคดี ได้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 30 ราย

กล่าวโดยสรุป คดีแรกที่อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 ฟ้องโดยชาวบ้านกว่า 380คน เกี่ยวกับการปล่อยมลพิษและไม่ปฏิบัติตามาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมแนบท้ายรายงาน EIA ของเหมืองและโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ โดยเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดต่อสุขภาพ และให้ กฟผ. ฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และปฏิบัติตามมาตรการแนบท้าย EIA ที่ใช้ในการขออนุญาติประกอบกิจการ ทั้งนี้ สรุปใจความสำคัญของคำพิพากษาศาลศาลปกครองสูงสุด คือการให้ กฟผ. ปฏิบัติตามมาตรการแนบท้าย EIA ซึ่งรวมถึงการอพยพประชาชนในรัศมี 5 กิโลเมตรที่อาจได้รับผลกระทบ การฟื้นฟูขุมเหมืองที่ขุดเสร็จแล้ว และปลูกป่าในพื้นที่ที่ กฟผ. เอาไปทำสนามกอล์ฟและสวนพฤกษชาติ

คดีที่สอง อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ฟ้องโดยชาวบ้าน 131 คน ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าป่วยด้วยโรคต่างๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับเหมืองหรือโรงไฟฟ้าถ่านหิน คดีนี้ผู้ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายทางสุขภาพ /สิ่งแวดล้อม และให้ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ซึ่งคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ให้ กฟผ. จ่ายค่าเสียหายต่อชาวบ้านในส่วนที่ได้รับผลกระทบจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ รวมเป็นเงินประมาณ 24 ล้านบาท

หลังจากคำพิพากษาทั้งสองคดีดังกล่าว เริ่มมีการสื่อสารในสังคมไปในทางว่า ผลกระทบจากเหมืองและโรงไฟฟ้าแม่เมาะต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนกำลังได้รับการแก้ไข เยียวยา ชดเชย และปัญหาต่างๆ น่าจะสิ้นสุดลงด้วยคำตัดสินของศาลในครั้งนี้ ดังที่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนไทยในชาติ” เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2558 ออกอากาศโดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และถูกนำไปพาดหัวโดย จดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ กฟผ. ฉบับที่ 44/2558 วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2558 ว่า “นายกรัฐมนตรี ย้ำ กรณีแม่เมาะเป็นคดีเก่า ปัจจุบัน กฟผ. ดูแลจนไร้มลพิษแล้ว” พร้อมไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างหนักของ กฟผ. เพื่อผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดอื่นๆ โดยกล่าวอ้างถึงโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของโครงการเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายแง่มุมที่สังคมควรได้เรียนรู้จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดทั้งสองคดีในกรณีเหมืองลิกไนต์และโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ เพื่อเป็นบทเรียนให้ได้นำไปพิจารณาในการคิดและผลักดันนโยบายสาธารณะด้านพลังงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเชื้อเพลิงถ่านหิน เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมอย่างเช่นที่แม่เมาะ เกิดซ้ำซากและเลวร้ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่อาศัยอยู่รอบโครงการดังกล่าว แต่ไม่ได้ร่วมฟ้องคดีทั้งสอง ยังไม่ได้รับความยุติธรรมหากว่าพวกเขาเหล่านั้นหายใจเอาอากาศเปื้อนมลพิษอันเดียวกันเข้าไป

ด้วยเหตุนี้เอง คณะผู้จัดงาน อันได้แก่ คณะทำงานโลกเย็นที่เป็นธรรม กลุ่มจับตาพลังงาน มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม และ ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอ (Press Briefing) ภายใต้หัวข้อ “สังคมไทยควรเรียนรู้อะไรจากกรณีแม่เมาะ” ดังรายละเอียดและกำหนดการที่แนบมาด้วยนี้

__________________________________________________________________

กำหนดการ

9.30 – 9.40 น. ลงทะเบียน – เปิดงาน

ผู้ดำเนินรายการ: กุลธิดา สามะพุทธิ (ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม)

9.40 – 10.20 น. ช่วง 1 – อธิบายคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคดีแม่เมาะ กุมภาพันธ์ 2558

- สรุปคำพิพากษา: นิวัติ แก้วล้วน (เลขาธิการสภาทนายความ) 

- บทเรียนจากคำพิพากษาฯ: สุรชัย ตรงงาม (มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม) [เอกสาร 1]

10.20 – 11.00 น. ช่วง 2 – การขยายตัวของเหมืองและโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

- นิเวศ-วัฒนธรรม: เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ (กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา) [เอกสาร 2]

- สิ่งแวดล้อม-สุขภาพ: ดร.อาภา หวังเกียรติ (วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต) [เอกสาร 3]

11.15 – 12.05 น. ช่วง 3 – มองไปข้างหน้า

- อนาคตโรงไฟฟ้า และ ชุมชนแม่เมาะ: สันติ โชคชัยชำนาญกิจ (กลุ่มจับตาพลังงาน/Energy Watch) [เอกสาร 4]

- เสียงจากพื้นที่: ตัวแทนชาวบ้านแม่เมาะ

__________________________________________________________________

คลิกเพื่อดู บันทึกวีดีโองาน Press Briefing: สังคมไทยควรเรียนรู้อะไรจากกรณีแม่เมาะ?

คลิกเพื่อดู Infographic: ทำความเข้าใจคดี "แม่เมาะ" หลังจากคำตัดสินศาลปกครองสูงสุด เมื่อ กุมภาพันธ์ 2558

 

ดาวน์โหลดเอกสารประกอบการนำเสนอของวิทยากร (presentation)

Attachments: 

เอกสาร 1 บทเรียนคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีแม่เมาะ สุรชัย ตรงงาม
เอกสาร 2 เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ การขยายตัวของเหมืองและโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
เอกสาร 3 อาภา หวังเกียรติ การขยายตัวฯ ผลกระทบเชิงสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
เอกสาร 4 สันติ โชคชัยชำนาญกิจ อนาคตโรงไฟฟ้า และ ชุมชนแม่เมาะ

Gallery: 

กิจกรรมอื่นๆ

  • Climate Hangout #1: คนรุ่นใหม่ทำอะไรได้กับโลกร้อน
  • #BreakFree2016 #THClimate #NoCoal
  • ลาก่อยวินเทอร์ โลก-อีส-ออน-ไฟเออร์
  • ดูหนัง สนทนา จิบชา "รับลมหนาว เคล้าโลกร้อน"
  • Dark Side Of The City : ด้านมืดของเมือง
  • Press Briefing: สังคมไทยควรเรียนรู้อะไรจากกรณีแม่เมาะ?
  • ประชุมเชิงปฎิบัติการ “เชื่อมโยงโลกร้อน สู่ชุมชนในเขตป่า”
ดูทั้งหมด

Thai Climate Justice Working Group
คณะทำงานโลกเย็นที่เป็นธรรม